ฟิล์มติดรถ เลือกแบบไหนดีที่สุด

HOMEฟิล์มติดรถ เลือกแบบไหนดีที่สุด

ฟิล์มติดรถ เลือกแบบไหนดีที่สุด

รถยนต์ใหม่ที่ออกจากโชว์รูมทุกคัน ทางโชว์รูมมักจะแถมฟิล์มกรองแสงมาให้เรียบร้อย

แต่บางท่านก็มักไม่ได้เลือกสีที่ชอบหรือแบบที่ถูกใจ  ฟิล์มกรองแสงที่เหมาแก่การใช้งาน

วันนี้อยากแนะนำการเลือกฟิล์มกรองแสงรถยนต์แบบง่ายๆ มองภายนอกก็เลือกแบบที่สีเข้าสีรถ

ภายในควรเลือกแบบที่สีด้านในมองออกมาสว่าง เพราะหากมองออกมาภายนอกในเวลากลางคืน

จะได้เห็นชัดเจน สีฟิล์มที่มีพื้นเป็นสีดำ สีเขียว หากมองออกจากในรถตอนกลางคืนจะมืด+มืดภายนอก

หากเลือกพื้นด้านในเป็นสีเทา สีชา เวลากลางคืนจะมองออกมาภายนอกเห็นความมืดภายนอกได้ชัดเจน

พี่จะเอาฟิล์มแบบไหนครับ"? ประโยคคำถามกึ่งต้องการคำตอบชนิดเฉียบพลัน บางคนเตรียมตัวมาดีก็รอดไป แต่ถ้าใครไม่ทันได้คิดละก็มีสิทธิ์บ้าใบ้เหมือนโดนฟ้าผ่าเปรี้ยงเข้าที่แกนกลางสมอง ก่อนที่จะตอบคำถามด้วยคำถามกลับไปว่า "แล้วส่วนใหญ่เขาติดแบบไหนกัน"?

 

'ฟิล์ม' ของแถมยอดนิยมของรถป้ายแดงที่มักถูกร้องขอเป็นลำดับต้นๆ และแน่นอนในเมื่อฟิล์มเป็นสิ่งที่รถแทบทุกคันต้องการ ย่อมมีทั้งยี่ห้อและรูปแบบต่างๆ มากมายที่แสยะยิ้มทักทายเราบนหน้าแคตตาล็อก

 

          เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ร้อยทั้งร้อยเมื่อมีรถใหม่สิ่งแรกที่เจ้าของต้องติดตั้งเพิ่มเติมคือฟิลม์กันความร้อน ทั้งนี้ประโยชน์ของฟิลม์คือนั้นมีมากมายแต่จะให้ประหยัดและคุ้มค่า ควรมีความเข้าใจพื้นฐานและของระบบการทำงานของฟิล์มกรองแสง เพื่อนำไปตัดสินใจได้ว่าจะเลือกอย่างไรจึงสมเหตุสมผล

 

          ปัจจุบันนี้ไม่มีกฎหมายควบคุมความเข้มของฟิล์มกรองแสงรถยนต์มีทั้งผลดีและร้าย แง่ดีเราได้อิสระในการเลือกใช้ แต่ในแง่ร้ายมีคนที่ใช้ประโยชน์จากการความเข้มของฟิลม์ก่ออาชญากรรมโดยรถยนต์ ทั้งนี้พบว่าส่วนใหญ่คนซื้อยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสง โดยเฉพาะเข้าใจว่าฟิล์มที่มีสีเข้มหรือทึบช่วยลดความร้อนได้ดี ในความจริงแล้วสีของฟิล์มไม่ได้เป็นตัวช่วยลดความร้อน แต่กลับเป็นสารเคลือบตัวอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ลดความร้อน

ามเข้มของฟิล์ม เข้าใจผิดกันชนิดบอกต่อ

 

ฟิล์มที่นิยมติดกันมี 3-4 เบอร์ เช่น 05,20,35 และ 50 เบอร์ของฟิล์มจะบ่งบอกค่าของแสงที่ส่องผ่านได้ แต่ในทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ยังคงเข้าใจผิดกันชนิดบอกต่อ เพราะความจริงแล้ว ฟิล์มเบอร์ 05 ซึ่งแสงส่องผ่านได้ร้อยละ 5 ฟิล์มนั้นจะมีความเข้มที่ 95% แต่เรากลับเรียกมันว่าฟิล์ม 80% ในขณะที่ฟิล์มเบอร์ 20 ที่ปล่อยให้แสงผ่านร้อยละ 20 เท่ากับฟิล์มเข้ม 80% เราดันเรียกฟิล์มเบอร์นี้ว่าฟิล์ม 60% แปลกแต่จริง!

 

เมื่อเป็นเช่นนั้น เวลาเราบอกว่าติดฟิล์ม 80% เราจึงได้ฟิล์มที่มีแสงส่องเข้ามาได้แค่ร้อยละ 5 ในขณะที่ความเข้มจริงของฟิล์มสูงถึง 95% เลยทีเดียว

ความร้อนจากแสงแดด สิ่งสำคัญที่ต้องป้องกันได้ดี

 

ฟิล์มรถยนต์ที่ดีจะต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนจากแสงแดดเป็นหลัก ไม่ใช่ป้องกันเฉพาะแสงอินฟราเรด และที่สำคัญต้องป้องกันรังสี UV ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 99  ค่าการสะท้อนแสงของฟิล์มที่กระจกบานหน้าไม่ควรเกิน 10% ถ้าเกินกว่านี้จะรบกวนรถที่สวนทาง รวมทั้งคนภายในที่มองออกไปอาจสะท้อนเงาตัวเองทำให้มองเห็นด้านนอกไม่ชัดเจนจนเกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนฟิล์มที่ติดรอบคันไม่ควรเกิน 30%

ฟิล์มปรอท กันร้อนได้ดี แต่มีข้อเสีย

 

ฟิล์มปรอท เป็นฟิล์มที่สามารถกันความร้อนได้ดี เนื่องจากเป็นฟิล์มติดอาคารที่นำมาติดในรถยนต์ แต่ผลเสียของฟิล์มชนิดนี้คือความเงาแวววาว ทำให้มีค่าสะท้อนแสงที่สูงลิ่ว จึงไม่เหมาะที่จะนำมาติดกับกระจกบานหน้ารถอย่างที่สุด เพราะฟิล์มปรอทความเข้ม 60% สามารถลดความร้อนได้ 65-80% ก็จริง แต่ค่าสะท้อนแสงปาไปถึง 25-30% เข้าให้แล้ว ในขณะที่ฟิล์มดำจะมีค่าสะท้อนแค่ 8-10%  แต่ก็สามารถลดความร้อนได้แค่ 50-60% เช่นกัน

 

ติดแล้วไม่สวย จะติดทำไม

 

เมื่อเลือกคุณสมบัติของฟิล์มได้แล้ว ความสวยงามเข้ากับสีของรถก็เป็นสิ่งจำเป็น รถที่มีสีอ่อนจะเหมาะสมกับฟิล์มที่มีสีเข้มและหลีกเลี่ยงฟิล์มปรอท โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถสีขาวเมื่อรวมเข้ากับฟิล์มปรอทด้วยแล้วยิ่งทำให้รถดูจืดชืดไร้อารมณ์สิ้นดี ส่วนรถสีเข้มจะสามารถเลือกฟิล์มได้แทบทุกชนิดและง่ายกว่า แต่สุดท้ายแล้วรสนิยมของเจ้าของรถต่างหากที่เป็นตัวตัดสินว่าพอใจที่จะเลือกแบบไหน

ความมั่นใจ ใบการันตี นี่ก็สำคัญ

 

ยี่ห้อและตัวแทนจำหน่ายก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะปล่อยละเลยไปไม่ได้ ตัวฟิล์มต้องมีแหล่งผลิตที่ชัดเจนและมั่นคงมายาวนานเป็นที่เชื่อถือ รวมทั้งต้องมีการรับประกันคุณภาพฟิล์มที่ไม่ต่ำกว่า 7 ปีเป็นอย่างน้อย

เลือกร้านติดตั้งและช่างที่ชำนาญการ

 

          เรื่องนี้ส่วนสำคัญที่จะให้คุณได้รับฟิล์มกรองแสงคุณภาพดีและงานที่เรียบร้อยไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง โดยหาร้านจากผู้ที่เคยใช้บริการมาก่อนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดโดยเฉพาะเว็บไซต์ตามคลับรถในรุ่นที่ท่านใช้และเลือกเอาแหล่งที่คุณสะดวก หรือถ้าไม่สามารถหาได้จริง ๆ ของให้พิจารณาตามหลักดังนี้

 

           1 ร้านเป็นตัวแทนจำหน่ายและติดตั้งจากฟิล์มยี่ห้อนั้น ๆ โดยตรง

           2 มีสถานที่สำหรับติดฟิล์มรถยนต์โดยเฉพาะ เพราะการติดฟิล์มนั้นต้องใช้พื้นที่สะอาดและไม่มีฝุ่น

           3 มีประกันจากทางร้านเอง ที่รับผิดชอบแก้ไขในปัญหาทันทีเมื่อเกิดข้อผิดพลาด